วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[เที่ยวมาเลเซีย-สิงคโปร์] วันที่9 เดินเที่ยวเล่นที่สนามบินชางฮี // บทส่งท้าย

วันที่เก้าของการเดินทาง

ถึงเวลากลับบ้านแล้ว

ยังพอมีเวลาแวะเที่ยวได้อีกนิดหน่อย ก็เลยจะไปดูห้างที่มีแต่ร้านหนังสือ

นั่งรถเมล์ไป รถเมล์มีสองชั้นล่ะ


Bras Basah Complex ศูนย์รวมร้านหนังสือและงานศิลปะ
ห้างมีทั้งหมดสี่ชั้น ร้านหนังสือเต็มไปหมดเลย เดินดูไปเรื่อยๆ ไปช่วงเช้าหลายๆร้านยังไม่เปิด เดินไม่นานก็ออกเดินทางไปสนามบิน ไปเดินเล่นที่สนามบินละกัน





นั่งรถไฟฟ้าไป ลงสถานี Changhi Airport สะดวกสบายเสียจริง




มาถึงที่ Terminal3


ขึ้น Skytrain ไป Terminal1


มาถึงก่อนเวลามาก มาเดินเที่ยวเล่นก่อน


Kinetic rain
ฉันนั่งดูมันอยู่นานมาก ดูเพลินจริง





เดินเล่นต่อ ไป Viewing mall ไปดูเครื่องบินกัน




มีที่เล่นสำหรับเด็ก


ที่วาดรูประบายสีที่มีแต่ผู้ใหญ่มาเล่น (ฮา)


ได้ของที่ระลึกฝีมือตัวเองกลับบ้านหนึ่งชิ้น เย่


มองลงไปข้างล่าง


ลงไปหาอะไรกินที่เซเว่นชั้นใต้ดิน ขี้เหนียวได้อีก

ไม่รู้จะไปไหนแล้วก็เลยไปเช็คอิน แล้วก็ผ่านตม.ขาออก ตอนนี้ยังไม่มีการสแกนสัมภาระ

เดินเข้าไปข้างใน เจอของให้เล่นอีกละ The Social Tree ที่ถ่ายรูป เลือกภาพประกอบฉากได้ ส่งรูปไปที่อีเมลตัวเองได้ จะส่งรูปตัวเองไปบนต้นไม้ให้คนอื่นๆดูก็ได้ ดูว่าแต่ละคนมาจากส่วนไหนของโลกกันบ้าง


มีอินเตอร์เน็ตให้เล่นฟรี


มีนู่นมีนี่ให้แวะชมเยอะดี อย่างอันนี้ก็สวนกะบองเพชร


ที่ทิ้งขยะรีไซเคิล ทำออกมาเป็นรูปทรงขยะเลย ขวดน้ำ กระป๋อง กระดาษ


เดินไปเรื่อยๆ


มีบริการส่งของกลับบ้านด้วย ถ้าเกิดเผลอพกอะไรที่ขึ้นเครื่องไม่ได้มา


ที่สแกนสัมภาระจะอยู่ที่เกตเลย อย่าลืมว่าถ้ามีของเหลว ของมีคม ต้องเอาใส่กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องไป





ถึงเวลาขึ้นเครื่อง




ชุดสาธิตการเอาชีวิตรอดเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน คุณแอร์เอามาวางไว้ตรงหน้าพอดี


ได้นั่งริมทางเดิน เลยอดถ่ายรูปท้องฟ้าเลย


ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง ถึงไทยแล้ว เวลาที่ไทยช้ากว่าสิงคโปร์หนึ่งชั่วโมง อย่าลืมปรับกลับนะ



 จบทริปมาเลเซีย-สิงคโปร์


-----------------------------------


บทส่งท้าย

ถึงคุณผู้อ่านทุกท่าน

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ (จะมีใครอ่านครบทุกตอนหรือเปล่า) เรื่องราวที่เราเขียนนี้อาจจะดูไม่ค่อยมีเนื้อหาอะไรนัก ถือว่าเป็นบันทึกของนักเดินทางมือใหม่หัดเขียนก็แล้วกัน เรื่องราวที่เราอยากจะเล่าจริงๆมีแค่ตอนติดตม.เพราะมันเป็นเหตุการณ์พิเศษ ส่วนเรื่องราวอื่นๆระหว่างการเดินทางนั้น ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เราไม่ได้จดบันทึกไว้ระหว่างเดินทาง แค่จดสั้นๆตอนก่อนนอนเท่านั้น จึงไม่มีอะไรจะเขียนเล่าสักเท่าไร ที่เขียนออกมานี้ก็แค่เล่าไปตามภาพที่ถ่ายมาเท่านั้นเอง

การเดินทางครั้งต่อไป เราจะจดบันทึกให้มากขึ้น แล้วจะนำมาเขียนเล่าให้มากขึ้น

แล้วพบกันใหม่ :)

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[เที่ยวมาเลเซีย-สิงคโปร์] วันที่8 The Southern Ridges, Orchard road

วันที่แปดของการเดินทาง

ช่วงเช้านี้เราจะไปเดินป่า(?)
เตรียมตัวก่อนไปเดินป่า แต่งตัวสบายๆ ใส่รองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินทางไกล ทาครีมกันแดด เตรียมหมวกเตรียมแว่นกันแดด ที่สำคัญอย่าลืมพกน้ำดื่มไปด้วย

เรามารอรถเมล์ที่แถวๆที่พัก ชอบป้ายรถเมล์ของที่นี่จัง มีชื่อประจำป้ายด้วย


ขึ้นรถเมล์ที่ประตูหน้า จ่ายค่าโดยสารด้วยบัตร EZ-link ได้เลย ค่าโดยสารคิดตามระยะทาง ลงรถที่ประตูกลาง ก่อนลงก็ต้องแตะบัตรด้วย


ที่ป้ายรถเมล์มีบอกสายรถเมล์ที่ผ่านและสถานที่ที่ไป มีตารางค่าโดยสารให้ดู



The Southern Ridges เป็นเส้นทางเดินที่เชื่อมต่อระหว่างสวนถึงสวนของสิงคโปร์ เส้นทางทั้งหมดยาว 9 กิโลเมตร ประกอบไปด้วย สวนทั้งหมด3สวน ได้แก่ the Kent Ridge Park, Telok Blangah Hill Park และ Mount Faber Park ทางเดินทั้งหมด8ทาง ได้แก่ Canopy Walk, Floral Walk and Hort park, Alexandra Arch, Forest Walk, Hilltop Walk, Henderson Waves, Faber Trail และ Marang Trail
สำหรับรายละเอียดดูได้ในเว็บนี้ The Southern Ridges มีบอกระยะทางของแต่ละเส้นทางเดิน เราเลือกเดินบางส่วนก็พอ เลือกว่าจะเริ่มจากตรงไหน มีบอกสถานีรถไฟฟ้าและสายรถเมล์ที่ผ่าน ลองเข้าไปดู

สำหรับเรา เรานั่งรถเมล์มาลงตรงระหว่าง HortPark กับ Alexandra Arch


เริ่มเดินจาก Alexandra Arch


Alexandra Arch สะพานทรงใบไม้ เป็นเหมือน "ประตูสู่ธรรมชาติ" ระยะทางยาว80เมตร จะมีการเปิดไฟหลากสีตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มถึงเที่ยงคืน



เข้าสู่ Forest walk ระยะทางทั้งหมด 1.3 กิโลเมตร


มีการให้ความรู้เรื่องพันธุ์ไม้ต่างๆ




ตลอดทางที่ผ่านมานี้เราเจอคนแค่สองคนเอง ฝรั่งสาวสองคนเดินผ่านเราไประหว่างที่เรากำลังนั่งพัก


 ต่อจาก Forest Walk คือ Hilltop Walk ระยะทาง 1 กิโลเมตร ผ่าน Telok Blangah Hill Park




มีที่สำหรับยืดเส้นยืดสาย สำหรับคนมาออกกำลังกาย



ถึง Henderson waves แล้ว



Henderson waves เป็นสะพานคนเดินที่สูงที่สุดในสิงคโปร์ ด้วยความสูงถึง 36 เมตร เหนือถนน Henderson ความยาวทั้งหมด 274 เมตร สะพานนี้มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามแปลกตาเป็นลูกคลื่น
มีการเปิดไฟให้แสงสีตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มถึงตีสอง


นั่งพักเหนื่อยแถวนี้ พลางคิดว่า เราบ้าหรือเปล่ามาเดินตอนกลางวัน ร้อนก็ร้อน ไม่เห็นมีคนอื่นมาเดินกันเลย เราบ้าไปแล้ว



Faber Trail ระยะทางทั้งหมด 1 กิโลเมตร ผ่าน Mount Faber Park
เดินบนที่สูงน่าจะเห็นไปได้ไกล แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยหมอกควันทำให้เห็นอะไรไม่ชัดเจนนัก




ระหว่างทางตรงนี้เจอนักท่องเที่ยวอีกสองคน (ต่างคนต่างมา) คนหนึ่งดูมีอายุหน่อย อีกคนหนึ่งเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำที่ถอดเสื้อเดิน (O.o)



Marang Trail ระยะทางทั้งหมด 800 เมตร




ใกล้จะสุดทางแล้ว


ออกมาโผล่ที่ Vivo City
นั่งพักตากแอร์เย็นๆ หาอะไรกินที่นี่


ช่วงบ่ายเราจะไปเดินช็อปปิ้งที่ถนนออร์ชาร์ด นั่ง MRT ไปลงสถานี Orchard, Somerset หรือ Dhoby Ghaut ก็ได้
เข้าไปดูแผนที่ได้ที่เว็บไซต์ http://www.orchardroad.org/



เราไปเดินเล่นเรื่อยๆเปื่อยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะไปช็อปอะไรเป็นพิเศษ



ชอบจัง แวะร้านหนังสือเนี่ย



มีพารากอนด้วย


รถเข็นขายไอติมเป็นที่นิยมอย่างมาก


รถเก็บขยะ


ทางเท้ากว้างขวางดีจัง



ร้านไดโซะ ทุกอย่าง 2 SGD ก็ประมาณ 50บาทเอง ถูกกว่าบ้านเราอีก


ห้างเยอะมากเลย ได้ของมานิดหน่อย มืดแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับ 


ทางคนข้ามถนนที่ไม่ใช่ทางม้าลาย แต่ก็มีไฟสัญญาณคนข้ามนะ


ป้ายชื่อถนน


สถานทูตไทย


สังเกตทางไปสถานีรถไฟฟ้า จะมีตัววิ่งบอกเวลาว่ารถไฟที่จะไปทางนี้ทางนั้นจะมาในอีกกี่นาที ทำให้เรากะเวลาเดินได้ว่า "เอ้อ เดินเร็วอีกหน่อยจะได้ไปทันขบวนนี้พอดี" หรือ "ไม่ต้องรีบก็ได้พอมีเวลาถ่ายรูปข้างบนนี้สักหน่อย" อะไรอย่างนี้


ดาราไทยไปไกลถึงต่างแดน


ฉันชอบโลกใต้ดินของสิงคโปร์จัง มันช่างกว้างขวางใหญ่โตโอ่อ่า ไม่ต่างจากบนดินเลย




ปิดท้ายวันนี้ด้วยรูปรูปลั๊กของสิงคโปร์ เหมือนของมาเลเซียนะ เป็นแบบขาแบนแนวนอน


จบวันที่แปดของการเดินทาง