ตั๋วน่ะซื้อไว้แล้ว เช็คอินจากบ้าน ปรินท์ออกมาเรียบร้อย
วันเดินทาง ตื่นแต่เช้า นั่งแท็กซี่ไปสนามบินดอนเมือง ราคารวมค่าทางด่วนราวๆ300บาท ไปถึงประมาณ7โมงครึ่ง เครื่องออก10โมง เคาน์เตอร์ยังไม่เปิดเช็คอินเลย ไปเดินเล่นรอบๆ เนื่องจากเคยไปสุวรรณภูมิมาแล้วเลยไม่ได้ตื่นเต้นกับดอนเมือง ระหว่างนั้นเราเจอแฟนพันธุ์แท้สุนทรภู่ด้วยล่ะ! แต่ไม่ทันได้ทัก มีคนทักไปก่อน แล้วเขาก็เดินจากไป เป็นเรื่องตื่นเต้นเล็กๆน้อยๆ จากนั้นเดินๆไปดูร้านอาหาร ราคาในสนามบินอะนะ ไม่ได้ซื้อหรอก หม่าม้าเตรียมข้าวกับหมูหวานมาให้กินเป็นมื้อเช้า ก็นั่งกินไป เสร็จแล้วไปเช็คอิน อ้อ เช็คอินแล้วในเว็บ แต่ว่าต้องตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่ถามว่า บินกลับเมื่อไร เค้าคงจะสงสัยว่าเราจะหนีไปทำงานมาเลหรือเปล่านะ เราบอกว่าเราจะบินกลับจากสิงคโปร์ พอดีว่าซื้อตั๋วแยก ก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร เคยอ่านเจอมาว่า ถ้ามีตั๋วขาเดียวบินไปต่างประเทศอาจจะไม่ได้ไป เสร็จแล้วก็ไปผ่านด่านตม. สแกนสัมภาระ เดินไปเกท ไปก่อนเวลาตั้งนาน จะหลับรอแต่นอนไม่หลับ แล้วก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง โลว์คอสมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เครื่องเล็กที่นั่งแคบ ขนาดเราเป็นคนขาสั้นนะ คนขายาวนี่ขาติดเบาะเลยล่ะ ระหว่างรอก็เห็นรถขนกระเป๋ามาโหลดใส่ใต้ท้องเครื่อง เห็นเลยว่าคนงานเขาโยนกระเป๋ากันแรงๆ ชิ้นส่วนหลุดกระเด็นเลยอะ O.o
จากกรุงเทพฯไปกัวลาลัมเปอร์ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมง เวลาประเทศเขาเร็วกว่าเราหนึ่งชั่วโมง ถึงแล้วอย่าลืมปรับนะ
เครื่องลงที่ LCCT ย่อมาจาก Low-Cost Carrier Terminal เครื่องจอดแล้วลงเดินไปเข้าตึก ไปเข้าห้องน้ำที่สนามบิน สกปรกมาก ให้ตายเถอะ จากนั้นไปผ่านด่านตม. เจ้าหน้าที่ไม่ถามอะไรเลย พยักเพยิดหน้าไปทางเครื่องสแกนนิ้ว เสร็จแล้วก็แปะสติกเกอร์มาให้ในพาสปอร์ต ประเทศมาเลเซียนี่ไม่มีให้กรอกใบตม.นะ
จากนั้นก็จะไปขึ้นรถบัสเข้าเมือง มีปัญหาเกิดขึ้น เราซื้อตั๋วรถบัสในเว็บแล้วไม่ได้ปรินท์ใบมา มันอยู่ในใบเดียวกับใบจองตั๋วเครื่องบินน่ะ ตอนทำเว็บเช็คอินเราก็ปรินท์ตั๋วมาเลยไม่ได้ปรินท์ไบจอง ในตั๋วก็ไม่ได้มีบอกเลยว่าเราซื้อตั๋วรถบัสมาแล้ว ทำยังไงดี ต้องเสียตังอีกรอบมั้ยเนี่ย เราเปิดมือถือดูมีไฟล์ใบจองอยู่ ก็เอาให้คนขายตั๋วดู เขาก็โอเคๆโบกมือขึ้นรถ ขึ้นไปบนรถมีคนมาเก็บตั๋ว เราก็เปิดในมือถือให้เขาดู เขาก็โอเคๆ พอคนเต็มรถก็ออก ฟู่... ปัญหาคลี่คลาย อ้อ ค่ารถเข้าเมืองซื้อในเว็บมา80บาทต่อคน ถ้าซื้อที่นี่9ริงกิต
เดินทางประมาณชั่วโมงนึงก็ถึง KL sentral เป็นศูนย์กลางของรถไฟฟ้าและรถบัสต่างๆนานา (เว็บไซต์ myrapid มีรายละเอียดทั้งรถไฟฟ้า และรถเมล์) เราเดินหาที่ซื้อตั๋วจะไปเกนติ้งวันรุ่งขึ้นแต่หาไม่เจอ ก็ช่างมันวันต่อไปค่อยมาซื้อ จะไปที่พักต้องไปขึ้นรถโมโนเรล ซึ่งสถานีไม่ได้อยู่ในตัว KL sentral แต่ต้องเดินออกไปอีก ข้ามถนน แล้วก็เดินไปอีก ขึ้นโมโนเรลไปลงสถานี Bugis Bintang ย่านนี้จะเป็นย่านของห้างสรรพสินค้าต่างๆ เป็นแหล่งชอปปิ้ง ที่พักเราต้องเดินเข้าซอยไปอีก เป็นโฮสเตล
จากนั้นก็ไปเดินเล่นในห้างหลังตึกแฝด แล้วก็ไปหาอะไรกิน ไปเดินวนรอบฟู้ดคอร์ทสองรอบ กินข้าวมันไก่แล้วกัน เราซื้อข้าวมันไก่ต้มราคา6ริงกิต กับข้าวมันไก่บาร์บีคิว ราคา6.80ริงกิต ให้เงินคนขายไป13ริงกิต เขาทอนมา20เซนต์ ถูกต้อง แต่เขาจิ้มที่เครื่องคิดเงินว่าข้าวมันไก่ย่างสองจาน ราคาจานละ6 รวมเป็น 12ริงกิต เท่ากับว่าเขาได้เงินเราไป12.80 แต่เข้าในเครื่องแค่12 อีก0.8เข้ากระเป๋าตัวเอง! คนขายขี้โกงนี่!! และไก่นี่ก็ติดกระดูกมาเพียบ กินไม่อร่อยเลย เซ็งไก่
รอจนมืด ที่นี่กว่าจะมืดก็ราวๆสองทุ่มได้ ออกมาหลังตึกมีโชว์น้ำพุแสงสี ตึกแฝดตอนเปิดไฟมันช่างสวยงามจริงๆ
เดินทะลุไปด้านหน้า มองแล้วมองอีก อยากจะอยู่นิ่งๆจ้องมองนานๆ แต่ว่าปวดคอจัง

มองจนอิ่ม จากนั้นก็กลับ
จบวันที่หนึ่งของการเดินทาง