เขาว่ากันว่า ให้เที่ยวตอนยังมีแรง
วลีนี้ทำให้เราเลือกไปที่ Batu caves
จากที่พักเรานั่ง Monorail ไป KL Sentral เหมือนเดิม
เดินทางโดยรถไฟ KTM Komuter เป็นรถไฟออกนอกเมือง รถไฟจะไม่ได้วิ่งถึ่เหมือนรถไฟในเมือง ต้องใช้เวลารอสักหน่อย
ซื้อตั๋วไปลงสถานี Batu caves ขาไปราคา 1RM (ขากลับ 2RM) ที่จริงมันก็น่าจะเที่ยวละ 2RM แต่ทำไมคิดแค่1ก็ไม่รู้ และที่ตั๋วก็เขียนว่าสถานี Sentul
Batu caves เป็นวัดในศาสนาฮินดู
ตอนแรกไม่ได้คิดจะมาที่นี่ เพราะดูไม่มีอะไร แต่พอนึกถึงคำที่ว่า ให้เที่ยวตอนยังมีแรง ก็เลยตัดสินใจมา มาออกแรงเสียหน่อย ปีนบันไดกัน
นกเพียบเลย โปรดระวังขี้นก
เดินขึ้นเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก มีลิงด้วย
ถึงข้างบนแล้ว มองย้อนกลับไป มองวิวสวยๆจากด้านบน หายเหนื่อยล่ะ
เข้าไปข้างใน ยังมีบันไดอีก
มีลิงและมีไก่ด้วย
ด้านในสุด
ชมถ้ำซักพักก็กลับไปขึ้นรถไฟ ออกเดินทางต่อ
นั่งรถไฟกลับเข้าเมือง แล้วก็เดินไป Dataran Merdeka คำว่า dataran แปลว่า square หรือว่าจตุรัสนั่นเอง ที่รอบๆจัตุรัสมีสิ่งสำคัญดังนี้
ธงชาติมาเลเซีย เคยเป็นเสาธงที่สูงที่สุดในโลก แต่ตอนนี้ตกอันดับแล้ว
Textile Museum
Sultan Abdul Samad Building
KL city galleries เข้าไปตากแอร์เย็นๆเสียหน่อย
ดูประวัติของสิ่งก่อสร้างสำคัญๆในกัวลาลัมเปอร์ แล้วก็ขึ้นชั้นสองไปดูโมเดลเมือง มีทั้งแบบกลางวันและกลางคืน
ภาพจากไม้จากที่ต่างๆทั่วโลก หาของไทยไม่เจอแฮะ
ร้านขายของที่ระลึก
หลังจากนั้นก็ไปอีกหลายที่ ด้วยการเดิน
Masgid Jamek
Jalan Petaling คล้ายๆสำเพ็ง
Central market ขายของที่ระลึก เน้นพวกงานฝีมือ
เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำไป ไปอีกฝั่งหนึ่ง
The old KL railway station
The Heritage Station Hotel
Masjid Negara หรือ National Mosque
เดินข้ามแม่น้ำกลับมา
นั่งรถเมล์ฟรีไปย่านช็อปปิ้ง ดูแผนที่รถเมล์ฟรีได้ที่ Go - KL City Bus
เมืองนี้ เรื่องความสะอาดน่าจะไม่แตกต่างจากบ้านเราเท่าไร
ย่าน Bukit Bintang เป็นย่านช็อปปิ้ง คล้ายๆแถวๆสยามบ้านเรา
สังเกตห้างนี้มันจะเป็นสองอาคาร มีทางเดินเชื่อมถึงกัน ตรงนั้นมันถือเป็น outdoor เป็นที่สูบบุหรี่ได้ :(
รถไฟเหาะในห้าง ไม่ใช่ของเด็กๆนะ ดูหวาดเสียวพอสมควรเลย
เถ้าแก่น้อย
ร้านรองเท้า VINCCI มันจะฮิตอะไรกันขนาดนี้
เดินห้างเล่นๆ window shopping อย่างเดียว
เดินกลับที่พัก เข้าซอยไป เพิ่งเห็นซอยแยกเข้าไปมีขายของกินเต็มเลย
ตรงนี้คือ Jalan Alor เป็น Food street
ร้าน satay steamboat ขายของกินเป็นไม้ๆ แล้วเอาไปลวกหรือปิ้ง
เลือกมาสองอย่าง สองไม้ 9 RM แพงน่าดู น่าจะเป็นเพราะหอย
มีคนอีกสองคนนั่งโต๊ะเดียวกัน สั่งกุ้งเผามากิน ดูเอร็ดอร่อยมากๆ แต่เราขี้เกียจแกะเลยไม่ได้สั่ง
กินเสร็จ หิวน้ำ เห็นร้านขายน้ำใกล้ๆกัน น้ำอะไรก็ไม่รู้สีเหลืองๆ มีแต่ป้ายภาษาจีน อ่านไม่ออก ถามคนขาย คนขายบอก Sugar crane เราทำหน้าคิดนิดนึง น้ำอะไรหว่า คนขายบอก num-aoi เงิบ ลุงพูดไทยได้ น้ำอ้อยนั่นเอง แก้วละ 1 RM
กลับถึงที่พัก ถ่ายรูปขวดน้ำสักหน่อย ที่เมืองไทยเราเคยเห็นฝรั่งแบ็กแพ็คถือขวดน้ำขนาดใหญ่อยู่บ่อยๆ ปกติเราแทบจะไม่ได้ซื้อน้ำขวดกิน เราชอบพกกระติกน้ำของเราเอง แต่เวลามาเที่ยวน่ะ ไม่มีตู้กดน้ำฟรีให้กด ต้องซื้อน้ำเปล่ากิน ขวดใหญ่เอาไว้พี่พัก แบ่งใส่ขวดเล็กติดกระเป๋าไว้เดินเที่ยวระหว่างวัน
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่กัวลาลัมเปอร์แล้วนะ
พรุ่งนี้เราจะไป มะละกา
จบวันที่สามของการเดินทาง